หากยังไม่แน่ใจว่าแบบไหนเหมาะกับพื้นที่ของคุณ ทีม Starboard Design ยินดีให้คำแนะนำพร้อมตัวอย่างผ้าให้ทดลองกับพื้นที่จริง
“เพราะผ้าที่ดี ไม่ได้แค่สวย แต่ต้องตอบโจทย์ทั้งการใช้งานและดีไซน์ของคุณ”
การเลือกผ้าสำหรับม่านม้วนหรือกันสาดไม่ได้เป็นแค่เรื่องของสีหรือความสวยงามเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อบรรยากาศ การมองเห็น ความร้อนภายในห้อง และการประหยัดพลังงานด้วย การเลือกผ้าที่เหมาะสมจึงเป็นจุดเริ่มต้นของพื้นที่ที่ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพและตอบโจทย์การใช้งานที่สุด
ผ้า Sunscreen ส่วนใหญ่ผลิตจากเส้นใย Polyester ผสมกับ PVC โดยใช้กระบวนการ Extrusion ซึ่งเป็นการฉีดพลาสติก (PVC) หุ้มเส้นใย แล้วจึงนำไปทอเป็นผืนผ้า ก่อนเข้าสู่ขั้นตอน Finishing เพื่อให้ผ้าคงรูป ไม่อ่อนย้วย มีความแข็งแรงและทนต่อแสงแดดและความร้อน
Openness คืออะไร?
Openness คือ ค่าระยะห่างของเส้นด้ายในการทอผ้า (ความโปร่งของผ้า) วัดเป็น % โดย
ตัวอย่าง:
ตัวอย่างเปรียบเทียบค่าความโปร่งแสงของผ้าชนิดต่างๆ
สีมีผลอย่างไร?
ภาพเปรียบเทียบผ้าสีอ่อนและสีเข้มของผ้า sunscreen ที่ความโปร่งแสง 5% เท่ากัน
รู้จักลายผ้าของ Sunscreen ที่นิยม 2 แบบหลัก
แม้จะมีค่า openness เท่ากัน เช่น 3% แต่ลาย Basket จะมองผ่านได้มากกว่า Twill เนื่องจากทิศทางเส้นใยและการกระจายช่องแสงที่สม่ำเสมอกว่า
ลายผ้าส่งผลต่อความรู้สึกโดยรวมของพื้นที่ เช่น ผ้าทอลายละเอียดให้ความหรูหรา ผ้าพื้นให้ความเรียบง่าย
ภาพเปรียบเทียบ ผ้าลาย Twill และ Basket 2×2 แสงผ่าน 1%
ความแตกต่างสำคัญอยู่ที่ กระบวนการ Finishing
Outdoor Sunscreen ผ่านการเคลือบผิวด้วย PVC Coating เต็มแผ่น (Full Surface PVC Coated) หลังจากการทอ ซึ่งทำให้ผิวผ้ากลายเป็นเนื้อเดียวกันทั่วทั้งผืน ส่งผลให้:
เมื่อเกิดแรงดึงหรือแรงฉีกขาด โครงสร้างของผ้าทั้งผืนช่วยต้านแรงร่วมกัน
ผ้ามีความแข็งแรง ทนแรงฉีกขาดและแรงลมได้ดีกว่า
พื้นผิวเรียบ สม่ำเสมอ และดูพรีเมียมมากกว่า
ในขณะที่ ผ้า Sunscreen ทั่วไป จะใช้การเคลือบเส้นด้ายก่อนทอ (Yarn Coated) ผิวผ้าที่ได้จึงยังคงเห็นเป็นเส้นด้ายที่ทอไขว้กัน:
หากเกิดรอยฉีกขาด แรงจะตกอยู่กับ เพียงเส้นด้ายที่ถูกฉีก ทำให้ขาดง่ายต่อเนื่อง
ไม่เหมาะกับการใช้งานกลางแจ้งที่มีลม แดด ฝน และแรงกระชาก
ภาพมุมใกล้เปรียบเทียบผ้า sunscreen ทั่วไป และ outdoor sunscreen
ซีรีย์ผ้า Outdoor Sunscreen ของ Starboard Design ประกอบด้วย U400, U5350
ในการเลือกผ้าสำหรับม่านม้วน หลายคนอาจสับสนระหว่างผ้า Dim-Out กับผ้า Sunscreen เพราะทั้งสองชนิดต่างก็ใช้เพื่อควบคุมแสง แต่ความจริงแล้วมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน
ผ้า Dim-Out เป็นผ้าทึบสายตา แต่ไม่ทึบแสง มองจากด้านนอกเข้ามาจะไม่เห็นภายใน และในขณะเดียวกัน แสงธรรมชาติยังสามารถผ่านเข้ามาได้ในระดับหนึ่ง ให้ความรู้สึกนุ่มนวล ลดแสงจ้าได้ดีคล้ายกระจกฝ้า
ในทางกลับกัน ผ้า Sunscreen เป็นผ้าที่ออกแบบมาให้มองทะลุผ่านได้ มองเห็นวิวภายนอกชัดเจนแม้จะบังแสงไว้บางส่วน มีค่าความโปร่ง (Openness) ให้เลือกหลายระดับ เช่น 1%, 3%, หรือ 5% ยิ่งค่าต่ำ ผ้าก็ยิ่งกันแดดได้มาก ผ้า Sunscreen ช่วยกรองแสงจ้าและรังสี UV ได้ดี แต่ยังคงรับแสงธรรมชาติไว้ในห้อง ทำให้บรรยากาศดูโล่ง โปร่ง และเชื่อมต่อกับพื้นที่ภายนอก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับพื้นที่สาธารณะ เช่น ร้านอาหาร คาเฟ่ โชว์รูม หรือห้องรับแขก
หากคุณต้องการบรรยากาศสงบ เป็นส่วนตัว ไม่เห็นวิวภายนอก ผ้า Dim-Out คือตัวเลือกที่เหมาะสม
แต่ถ้าคุณต้องการความโปร่งสบาย มองเห็นวิว และรับแสงธรรมชาติแบบไม่แสบตา ผ้า Sunscreen จะตอบโจทย์มากกว่า
ภาพเปรียบเทียบผ้า Dim-out และ Sunscreen
ซีรีย์ผ้า Dim-out ของ Starboard Design ประกอบด้วย M240, M250
ผ้า Blackout คือผ้าที่ออกแบบมาเพื่อกันแสง 100% หรือใกล้เคียง เพื่อให้ภายในห้องมืดสนิท เหมาะกับห้องนอน โรงแรม ห้องประชุม หรือพื้นที่ที่ต้องการควบคุมแสงอย่างสมบูรณ์ ซึ่งผ้า Blackout ในตลาดมีอยู่หลายชนิด โดยแต่ละชนิดมี กระบวนการผลิต และ คุณสมบัติการใช้งาน ที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน
1. Blackout ชนิดเคลือบหลายชั้นบนโครงใย (Multi-layer Coated Blackout)
วิธีผลิต:
ทอเส้นใยเป็นโครงสร้างภายใน (skeleton) จาก Fiberglass หรือ Polyester แล้วเคลือบผิวด้วย PVC หรือ Polyester 3–4 ชั้น ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง จนเนื้อผ้าทึบแสงและมีความหนาแน่นสูง
จุดเด่น:
กันแสงได้ 100%
ทนต่อความร้อนและแสงแดด
กันน้ำ เช็ดล้างทำความสะอาดได้ง่าย
มีคุณสมบัติกันลามไฟ
ข้อจำกัด:
สีพื้นเรียบ (solid) ไม่มีลวดลาย
ลักษณะผ้าอาจดูแข็ง ไม่เหมาะกับงานตกแต่งที่เน้นดีไซน์
Multi-layer Coated Blackout Q100
ซีรีย์ผ้า Blackout เคลือบ PVC ของ Starboard Design ประกอบด้วย Q100, Q300
2. Blackout เคลือบโฟมอะคริลิก (Foam-Backed Decorative Blackout)
วิธีผลิต:
ใช้ผ้า Polyester ด้านหน้า ที่สามารถพิมพ์ลายหรือทอลวดลาย/Texture ได้อย่างหลากหลาย แล้ว เคลือบหลังด้วยโฟมอะคริลิก (Acrylic Foam Coating) เพื่อให้แสงผ่านไม่ได้
จุดเด่น:
สวยงาม มีลวดลายและพื้นผิวให้เลือกมาก
เหมาะกับงานตกแต่งภายในที่ต้องการทั้งฟังก์ชันและความสวยงาม
ข้อจำกัด:
ไม่ทนเท่าแบบเคลือบหลายชั้น
ด้านหลัง (โฟม) อาจหลุดลอกหากโดนของมีคมหรือใช้งานหนัก
ไม่กันน้ำ และอาจขึ้นราในพื้นที่ชื้น
Acrylic foam backed blackout fabric
ซีรีย์ผ้า Blackout เคลือบ PVC ของ Starboard Design ประกอบด้วย Q120, Q240, Q260, Q400
3. Sunscreen Blackout แบบพิเศษโดย Starboard Design
วิธีผลิตเฉพาะ:
เริ่มจากกระบวนการผลิตแบบเดียวกับผ้า Sunscreen คือทอเส้นใย Polyester core สีดำ ให้มี openness (ช่องแสง) เล็กมาก แล้วผ่านกระบวนการ Shrinkage Finishing ด้วยความร้อนสูง ทำให้เส้นใยหดตัวแน่น จนไม่มีช่องแสงหลงเหลือ กลายเป็น Blackout
จุดเด่น:
โครงสร้างแน่นมาก กันแสง 100% โดยไม่ต้องใช้โฟมหรือเคลือบหนา
ทนทานต่อการใช้งานกลางแจ้งหรือในที่ที่มีความชื้น ไม่ลอก ไม่เป็นเชื้อรา
กันลามไฟ คงรูป ไม่หดหรือบิดเบี้ยวเมื่อใช้งาน
เหมาะสำหรับ:
พื้นที่กึ่งภายนอก, ร้านอาหาร, โชว์รูม, หรือพื้นที่ที่ต้องการวัสดุที่ทนต่อสภาพแวดล้อม
Sunscreen made blackout 100% fabric for roller blinds
ซีรีย์ผ้า Blackout เคลือบ PVC ของ Starboard Design ประกอบด้วย QE900
แม้จะกันแสงและความร้อนได้ดีเช่นเดียวกับผ้า Blackout แต่ Sunscreen 0% มีจุดเด่นเฉพาะตัวที่เหมาะกับพื้นที่เปียกชื้น เช่น ห้องน้ำ ห้องสปา หรือพื้นที่กึ่งภายนอก ที่ไม่ได้ต้องการการความมืดสนิทเหมือน blackout ได้แก่:
กันน้ำ ไม่เปื่อยยุ่ยแม้โดนความชื้น
กันเชื้อรา ไม่ขึ้นราบนเนื้อผ้า
กันมองเห็น 100% ให้ความเป็นส่วนตัวสูง
ทำความสะอาดง่าย ใช้ได้นานโดยไม่เปลี่ยนสี
จึงเป็นทางเลือกที่ทั้ง สวย ทน และปลอดภัย สำหรับห้องน้ำในโรงแรมและงานกึ่งภายนอกได้เป็นอย่างดี
ภาพเปรียบเทียบ sunscreen 0% และ blackout fabric
กระบวนการผลิตที่ทำให้ “สีติดทนนาน”
สิ่งที่ทำให้ผ้า Acrylic แตกต่างจากผ้าทั่วไปคือ เทคนิคการย้อมเส้นใยแบบ solution-dyed acrylic
คือการ ผสมสีลงไปตั้งแต่ขั้นตอนการผลิตเส้นใย (ไม่ใช่ย้อมหลังทอผ้า) ทำให้สีซึมลึกเป็นเนื้อเดียวกับเส้นใยตั้งแต่ต้น
ข้อดีของกระบวนการนี้:
สีไม่ซีด แม้โดนแดดและฝนต่อเนื่องหลายปี
ไม่หลุดลอก ไม่ลอกเป็นคราบเหมือนผ้าย้อมทั่วไป
คงความสดของสีได้นานกว่าผ้าทุกชนิด
ล้างทำความสะอาดได้โดยไม่ทำให้สีซีด
ทนแรงดึง – เหมาะกับลม แดด ฝน
เส้นใยอะคริลิกมีโครงสร้างที่เหนียวแน่นและยืดหยุ่น จึง รับแรงตึง แรงลม และการขึงตึงในระยะยาวได้ดี โดยไม่ฉีกขาดหรือเสียรูปง่าย
นอกจากนี้ผ้า Acrylic ยังมีคุณสมบัติ:
กันน้ำและระบายอากาศได้ ช่วยลดการเกิดเชื้อรา
แห้งเร็ว ไม่อมความชื้น
ทน UV สูง ไม่เปื่อยหรือกรอบจากแสงแดดจัด
ไม่ขึ้นราและไม่อับชื้น แม้ใช้งานในพื้นที่เปียกชื้นหรือใกล้ทะเล
สรุป: ทำไมต้องเลือกผ้า Acrylic สำหรับงานกลางแจ้ง?
เพราะคุณจะได้ผ้าที่ทั้ง สวย ทน ใช้งานได้ยาวนาน โดยไม่ต้องเปลี่ยนบ่อย สีไม่ซีด ไม่กรอบ ไม่ลอก และยังดูพรีเมียมตลอดอายุการใช้งาน เหมาะสำหรับโครงการที่เน้นคุณภาพ เช่น กันสาดบ้านพักตากอากาศ ร้านอาหารริมทะเล หรือเฟอร์นิเจอร์ outdoor ที่ต้องการความหรูหราและคงทนในเวลาเดียวกัน
ผ้า Acrylic สีสันสดใส ทนแดด ทนฝน ทนแรงลม
ซีรีย์ผ้า Acrylic ของ Starboard Design ประกอบด้วย U1000, U2000
ถ้าผ้าใน collection ที่เรามี ยังไม่ตอบโจทย์ความต้องการ หรือการออกแบบของลูกค้า ที่ Starboard Design เรายังมีความเชี่ยวชาญในการจัดหาและเปรียบเทียบผ้าสำหรับม่านม้วนทั้งแบบ Sunscreen และ Blackout โดยสามารถเข้าถึงโรงงานผลิตทั่วโลก จึงมั่นใจได้ว่าเราสามารถ เทียบผ้าได้ใกล้เคียงต้นฉบับเกือบ 100% ภายในเวลาไม่เกิน 30 วัน พร้อมขึ้นชิ้นงานตัวอย่างขนาดจริงในห้อง Mock-up Room ได้ตามมาตรฐานโครงการ
ระยะเวลาผลิตและติดตั้งสำหรับงานโครงการอยู่ที่ประมาณ 45–60 วัน (รวมการผลิตตามขนาดจริงและการติดตั้งหน้างาน)
หมายเหตุ: งานโครงการ หมายถึงงานที่มีจำนวนขั้นต่ำ ตั้งแต่ 100 ชุดหรือ 400 ตร.ม. ขึ้นไป ซึ่งจำนวนขั้นต่ำอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับชนิดของผ้าและโรงงานที่ผลิต
หากยังไม่แน่ใจว่าแบบไหนเหมาะกับพื้นที่ของคุณ ทีม Starboard Design ยินดีให้คำแนะนำพร้อมตัวอย่างผ้าให้ทดลองกับพื้นที่จริง
“เพราะผ้าที่ดี ไม่ได้แค่สวย แต่ต้องตอบโจทย์ทั้งการใช้งานและดีไซน์ของคุณ”
STARBOARD DESIGN(C) 2025 ALL RIGHTS RESERVED